“ตอนเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ถือว่ายากลำบากเพราะชาวบ้านในชุมชนรู้จักแค่ทำพวงกุญแจด้วยวิธีทากาว แต่พอเปลี่ยนมาใช้การเย็บและมีดีไซน์ทรงก้อนเมฆ เราก็ต้องเรียนรู้กระบวนการผลิตใหม่ทั้งหมด และเริ่มฝึกฝนเทคนิคหัตถกรรมใหม่”

ตอนนี้ “โซคูน” ผลิตสินค้าหลากหลายประเภททั้งกล่อง กระเป๋า โคมไฟทรงก้อนเมฆ ที่มีคุณสมบัติทนไฟและกันน้ำ รวมถึงพวงกุญแจที่ล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม

“ทุกอย่างเป็นแบบนี้ได้เพราะคนในชุมชนพร้อมอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง ขั้นตอนการทำโคมไฟรังไหมนั้นไม่ง่ายเลย เราต้องสั่งรังไหมล่วงหน้า 3-4 เดือนจากศูนย์หม่อนไหม จังหวัดสระบุรี โคมไฟแต่ละอันต้องใช้เวลาทำประมาณ 3-4 วัน ต้องตัดรังไหม ส่วนเศษที่เหลือก็เอาไปทำพวงกุญแจ”

โคมไฟแบรนด์ “โซคูน” ได้รับรางวัล DEmark ของ DITP เมื่อปี 2560 และได้รับรางวัลไทยเท่จากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

ธุรกิจของ “โซคูน” ได้เติบโตจากที่เดิมมีพนักงานเพียง 5 คนเมื่อ 48 ปีก่อน มาเป็น 30 คนในปัจจุบัน ซึ่งคุณกิตติศักดิ์มีความตั้งใจจริงที่จะเพิ่มค่าแรงให้กับคนในชุมชน โดยตอนนี้ ได้ค่าแรงวันละ 300-500 บาท

“เราจะพัฒนาให้ดีขึ้นทุกปี สิ่งที่เราทำเกิดผลสำเร็จจริง และเราได้แบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ให้กับกลุ่มชุมชน OTOP อื่นๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถพัฒนาตัวเองได้ด้วย เราเน้นการพัฒนาคน และได้จัดฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่มาร่วมกิจกรรมด้วย เพื่อจะได้เรียนรู้จากความสำเร็จของเรา

สำหรับผู้สนใจสินค้าไลฟ์สไตล์ เตรียมพบกับงาน STYLE Bangkok งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ จัดโดย DITP ที่พร้อมนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ ตอบสนองเทรนด์ใหม่ งานดังกล่าวจัดขึ้นในเดือนเมษายน และตุลาคมของทุกปี สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของโซคูนได้ที่ www.facebook.com/socoonthai
บทความโดย ณัฐิณี รัตนประสิทธิ์
ขอบคุณภาพประกอบจาก โซคูน