“คนใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และมองหาอาหารทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาหาร plant-based คือกุญแจสำคัญ แต่ก็ยังเป็นปัญหาสำหรับคนที่แพ้ถั่ว ดังนั้น ผมจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์มัดใจขึ้นมา” คุณปริยะ อธิบาย

หลังจากได้ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าอาหาร plant-based คุณปริยะจึงพัฒนาแผ่นเบอร์เกอร์จากพืช และได้โปรโมตผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทในงานแสดงสินค้าในประเทศไทย แต่ไม่ได้รับความนิยม เพราะคนไทยส่วนใหญ่รับประทานข้าวและเนื้อสัตว์อื่นๆ ดังนั้น เขาจึงนำเสนอเมนูอื่นสำหรับผู้บริโภคชาวไทย คือ เนื้อปิ้ง และสะเต๊ะ ซึ่งทำจากพืช

“เนื้อปิ้งและสะเต๊ะที่ทำจากพืชเป็นสินค้าขายดีของเราตั้งแต่ปี 2561-2563 ซึ่งเป็นช่วงโควิด-19 ระบาด” คุณปริยะ กล่าว และสองเมนูนี้ได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเบอร์เกอร์ที่ไม่ใช้เนื้อสัตว์ “เราควรใช้เครื่องปรุงส่วนผสมของไทยในสูตรอาหารเพื่อสร้างให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด”

คุณปริยะไม่ได้ทำธุรกิจเพราะต้องการสร้างกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว แต่ปรารถนาจะสร้างความยั่งยืนด้วย โดยเขากล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับผม ธุรกิจคือการช่วยเหลือคนอื่นด้วย ผมเริ่มทำธุรกิจนี้เพราะต้องการสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรในช่วงที่ราคายางพาราตก ผมจัดคอร์สอบรมเพื่อแบ่งปันความรู้กับเกษตรกร และกระจายความมั่งคั่งให้กับชุมชนท้องถิ่นและเครือข่าย ความสำเร็จไม่ได้จำกัดอยู่ที่เราเท่านั้น เราต้องช่วยพัฒนาและสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศด้วย”

คุณปริยะชื่นชมการทำงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ซึ่งเขาได้ประโยชน์อย่างมากจากการร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์และการพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ในโครงการต้นกล้า ทู โกล จัดโดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ผู้สนใจสามารถพบกับอาหารและเครื่องดื่มของไทยอื่นๆ อีกมากมายในงาน THAIFEX-Anuga Asia 2022 ซึ่งจัดขึ้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2565 สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://thaifex-anuga.com/en/

ดูข้อมูลมัดใจ เพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/mudjai.th/
ขอบคุณภาพประกอบจากแบรนด์มัดใจ
บทความโดย พลอยลดา พรหมเมศ